จะ Bollinger วง ชั้นนำ หรือ ปกคลุมด้วยวัตถุฉนวน

Bollinger Bands. Bollinger Bands เป็นเครื่องมืออเนกประสงค์ที่รวมค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและเป็นหนึ่งในเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ได้รับความนิยมมากที่สุดมีสามองค์ประกอบของตัวบ่งชี้ Bollinger Band โดยเฉลี่ยค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20- รอบจะถูกใช้ Upper Band วงดนตรีส่วนบนมักเป็นค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 2 ค่าที่คำนวณจากช่วงปิดข้อมูล 20 ช่วงเหนือค่าเฉลี่ยที่เคลื่อนที่ได้ Low Voltage วงดนตรีที่ต่ำกว่าปกติจะมีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 2 ค่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่เคลื่อนที่ได้ Bolllinger Bands in blue แสดงไว้ในแผนภูมิด้านล่าง E-mini SP 500 สัญญาซื้อขายล่วงหน้ามีสามวิธีหลักที่ผู้ค้าอาจใช้วง Bollinger สำหรับการตีความเหล่านี้จะกล่าวถึงในส่วนต่อไปนี้ Oscillators การแสดงและตัวชี้วัดตัวชี้วัดชั้นนำและล้าหลังตัวชี้วัดสามารถแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก - ชั้นนำและปกคลุมด้วยวัตถุฉนวน - ทั้งที่แตกต่างกันในสิ่งที่พวกเขาแสดงให้ผู้ใช้ตัวชี้วัดที่หลงตัวบ่งชี้ที่สำคัญที่สุดคือตัวชี้วัดที่สร้างขึ้นเพื่อดำเนินการเคลื่อนไหวด้านราคาของ as ecurity ให้คุณภาพ predictive สองตัวชี้วัดชั้นนำที่รู้จักกันดีที่สุดคือ Relative Strength Index RSI และ Stochastics Oscillator ตัวบ่งชี้ชั้นนำเป็นที่คาดว่าจะแข็งแกร่งที่สุดในช่วงของการเทรดดิ้งด้านข้างหรือที่ไม่ใช่เทรนด์ขณะที่ตัวชี้วัดที่ล่าช้าคือ ถือว่าเป็นประโยชน์มากในช่วงแนวโน้มผู้ใช้จำเป็นต้องระมัดระวังเพื่อให้แน่ใจว่าตัวบ่งชี้จะมุ่งไปในทิศทางเดียวกับแนวโน้มตัวบ่งชี้ชั้นนำจะสร้างสัญญาณซื้อและขายจำนวนมากที่ทำให้ดียิ่งขึ้นสำหรับตลาดที่ไม่ใช่แนวโน้มที่เปลี่ยนแปลงเร็วแทนที่จะเป็นแนวโน้ม ตลาดที่จะดีกว่าที่จะมีจุดเข้าและออกน้อยกว่าตัวบ่งชี้ที่สำคัญส่วนใหญ่เป็นตัวสร้างสัญญาณซึ่งหมายความว่าตัวบ่งชี้เหล่านี้ถูกวางแผนไว้ภายในขอบเขตที่กำหนดตัวสร้างภาพจะผันผวนไปตามเงื่อนไขที่ซื้อเกินและ oversold ตามระดับที่ตั้งขึ้นอยู่กับ oscillator ที่ระบุ หมายเหตุตัวอย่างของ oscillator คือ RSI ซึ่งแตกต่างกันระหว่างศูนย์และ 100 A ความปลอดภัยมักถูกมองว่าเป็น overval ued เมื่อ RSI อยู่เหนือ 70 ตัวบ่งชี้การยุบดัชนีบ่งชี้ lagging เป็นหนึ่งที่ดังต่อไปนี้การเคลื่อนไหวของราคาและมีคุณภาพการคาดการณ์น้อยตัวชี้วัดที่รู้จักกันดีที่สุดคือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่และแถบ Bollinger ประโยชน์ของตัวบ่งชี้เหล่านี้มีแนวโน้มที่จะลดลงในช่วง non - เนื่องจากแนวโน้มว่าตัวชี้วัดที่ล้าหลังมีแนวโน้มที่จะให้ความสนใจกับแนวโน้มและสร้างสัญญาณซื้อและขายน้อยลงซึ่งจะช่วยให้ผู้ค้าสามารถจับแนวโน้มมากกว่าแทนที่จะถูกบังคับให้ออกไป ขึ้นอยู่กับลักษณะที่ผันผวนของตัวชี้วัดชั้นนำตัวชี้วัดของพวกเขาถูกนำมาใช้ตัวชี้วัดทั้งสองแบบที่ใช้ในการสร้างสัญญาณซื้อและขายผ่านทาง crossovers และ divergence การข้ามเกิดขึ้นเมื่อตัวบ่งชี้เคลื่อนที่ผ่านระดับที่สำคัญหรือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ของ ตัวบ่งชี้มันส่งสัญญาณว่าแนวโน้มในตัวบ่งชี้จะขยับและการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มนี้จะนำไปสู่การเคลื่อนไหวบางอย่างในราคาของต้นแบบ ความปลอดภัยตัวอย่างเช่นถ้าดัชนีความแรงของสัมพัทธ์ตัดด้านล่างระดับ 70 แสดงว่าการรักษาความปลอดภัยกำลังเคลื่อนตัวออกไปจากสถานการณ์ที่ซื้อเกินกำลังซึ่งจะเกิดขึ้นเฉพาะเมื่อความปลอดภัยลดลงตัวชี้วัดที่สองใช้คือความแตกต่างซึ่งเกิดขึ้นเมื่อ ทิศทางของแนวโน้มราคาและทิศทางของตัวบ่งชี้แนวโน้มมีการเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้ามนี้สัญญาณว่าทิศทางของแนวโน้มราคาอาจจะอ่อนลงเป็นโมเมนตัมที่มีการเปลี่ยนแปลงมีอยู่สองประเภท divergence - บวกและลบ Positive divergence เกิดขึ้นเมื่อตัวบ่งชี้มีแนวโน้มสูงขึ้นในขณะที่การรักษาความปลอดภัยมีแนวโน้มลดลงสัญญาณรั้นนี้ชี้ให้เห็นว่าโมเมนตัมเริ่มต้นที่จะย้อนกลับและผู้ค้าอาจเร็ว ๆ นี้เริ่มเห็นผลของการเปลี่ยนแปลงในราคาของการรักษาความปลอดภัยการแตกต่างเชิงลบให้สัญญาณหยาบคาย เป็นโมเมนตัมต้นแบบอ่อนตัวลงในช่วงขาลงในทางกลับกันสมมติว่าดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์เป็น trendin g ขึ้นในขณะที่ราคาหลักทรัพย์มีแนวโน้มลดลงความแตกต่างเชิงลบนี้สามารถนำมาใช้เพื่อชี้ให้เห็นว่าแม้ว่าราคาจะล้าหลังความแข็งแกร่งที่แสดงโดย RSI ผู้ค้ายังคงคาดหวังว่า bulls จะสามารถควบคุมทิศทางของสินทรัพย์ได้และมี มันสอดคล้องกับโมเมนตัมที่คาดการณ์ไว้โดยตัวบ่งชี้ตัวชี้วัดที่ใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคให้แหล่งข้อมูลที่มีประโยชน์อย่างมากของข้อมูลเพิ่มเติมตัวบ่งชี้เหล่านี้ช่วยในการระบุความผันผวนของโมเมนตัมแนวโน้มและด้านอื่น ๆ ในการรักษาความปลอดภัยเพื่อช่วยให้ผู้ค้าเมื่อมีการตัดสินใจเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องทราบ ในขณะที่ผู้ค้าบางรายใช้ตัวบ่งชี้เพียงตัวเดียวสำหรับสัญญาณซื้อและขายซึ่งใช้ร่วมกันได้ดีที่สุดร่วมกับการเคลื่อนไหวของราคารูปแบบแผนภูมิและตัวชี้วัดอื่น ๆ กลุ่มผู้แนะนำวงกลม BOLLERER Bands เป็นเครื่องมือการค้าทางเทคนิคที่สร้างขึ้นโดย John Bollinger ในช่วงต้นทศวรรษ 1980 พวกเขาลุกขึ้นจากความจำเป็นในการปรับตัวของการค้าและการสังเกตว่าความผันผวนเป็นแบบไดนามิกไม่คงที่เป็น ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในเวลานั้นวัตถุประสงค์ของกลุ่ม Bollinger Bands คือการให้คำนิยามสูงและต่ำตามความหมายโดยทั่วไปราคาสูงที่แถบด้านบนและต่ำที่แถบล่างคำนิยามนี้สามารถช่วยในการจดจำรูปแบบที่เข้มงวดและมีประโยชน์ในการเปรียบเทียบ การดำเนินการด้านราคาเพื่อการดำเนินการของตัวชี้วัดเพื่อให้ได้มาซึ่งการตัดสินใจในการซื้อขายอย่างเป็นทางการกลุ่มนักลงทุนสัมพันธ์ประกอบด้วยชุดของสามเส้นโค้งที่วาดขึ้นจากราคาหลักทรัพย์กลุ่มกลางเป็นตัวชี้วัดของแนวโน้มในระยะกลางซึ่งโดยปกติจะเป็นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่ง่าย เป็นระยะห่างระหว่างแถบบนและล่างและวงกลมกลางจะพิจารณาจากความผันผวนโดยทั่วไปคือส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของข้อมูลเดียวกันที่ใช้สำหรับค่าเฉลี่ยค่าดีฟอลต์คือ 20 ช่วงเวลาและสองมาตรฐาน อาจจะปรับให้เหมาะกับวัตถุประสงค์ของคุณดูกลุ่ม Bollinger Bands ที่กำลังดำเนินการเรียนรู้วิธีใช้แถบ Bollinger Bollinger Bollinger Bollinger Bands โดย John Bollinger, CFA, CMT รับกฎ 22 Bollinger Band ลงทะเบียนเพื่อรับอีเมลเป็นครั้งคราวเกี่ยวกับกลุ่ม Bollinger การสัมมนาทางเว็บและงานใหม่ล่าสุดของ John เราไม่เคยเปิดเผยข้อมูลของคุณ John Bollinger's Capital Growth Letter การวิเคราะห์และวิจารณ์เกี่ยวกับตลาดรวมถึงคำแนะนำในการลงทุนโดย John Bollinger. CGL เขตข้อมูลสมาชิกกุมภาพันธ์ 2017 ส่วนที่ตัดตอนมาแนวโน้มปัจจุบัน Outlook. Our ปัจจุบันหุ้นสหรัฐฯค่อนข้างเป็นบวกเราคาดว่าราคาที่สูงขึ้นในช่วงกลางระยะตลาด internals มีความเข้มแข็งการมีส่วนร่วมกว้างและการเติบโตจะดึงดูดความสนใจใหม่ 52 สัปดาห์ highs ยังคงแข็งแรงและต่ำใหม่อยู่ ความเห็นในสื่อมักเป็นลบแนะนำว่าความเห็นรั้นของเราไม่มีที่ไหนเลยใกล้ที่จะได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางการสแกนเว็บไซต์เช่น CNBC, MarketWatch และ Yahoo Finance ยืนยันนี้เราเข้าใจว่าการประเมินมูลค่าสูง แต่ดูเหมือนจะไม่ปรากฏ เป็นปัจจัยลบอีกนัยหนึ่งที่เป็นไปได้เชิงลบคืออัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นดูเหมือนจะไม่สามารถรับแรงฉุดใด ๆ ได้